มหาวิทยาลัยราชพฤกษ์ยึดหลักธรรมาภิบาล 10 ประการ ได้แก่ ความโปร่งใส ความรับผิดชอบ การมีส่วนร่วม หลักนิติธรรม ความเสมอภาค คุณธรรม ประสิทธิภาพและประสิทธิผล การกระจายอำนาจ การตรวจสอบได้ และความยั่งยืน โดยออก “ข้อบังคับมหาวิทยาลัยราชพฤกษ์ว่าด้วยประมวลจริยธรรมของมหาวิทยาลัย พ.ศ. 2567” เพื่อกำกับจริยธรรมของบุคลากรทุกระดับ พร้อมระบบประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้บริหารแบบ 360 องศา การประเมินอาจารย์ตามคุณลักษณะ KSA และหลักธรรมาภิบาล และการประเมินเจ้าหน้าที่ตามวิธีปฏิบัติงานที่สอดคล้องกับหลักธรรมาภิบาล ส่งผลให้มหาวิทยาลัยมีระบบบริหารจัดการที่โปร่งใส ยุติธรรม ตรวจสอบได้ และเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียม ส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่ยึดมั่นในความดี ความซื่อสัตย์ และการเคารพกติกา อันเป็นรากฐานของสังคมประชาธิปไตยและสันติสุขที่ยั่งยืน
มหาวิทยาลัยมีการเปิดรายวิชากฎหมายในชีวิตประจำวันในทุกปีการศึกษา เป็นรายวิชาในหมวดศึกษาทั่วไป ซึ่งมีการกำหนดหัวข้อสิทธิมนุษยชนและกระบวนการยุติธรรมอยู่ในมคอ 3 โดยส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ และจิตสำนึกด้านสิทธิมนุษยชนและกระบวนการยุติธรรมในสังคม ผ่านการเรียนรู้เชิงปฏิบัติและการมีส่วนร่วมของนิสิต มีการจัดกิจกรรมศาลจำลอง (Mock Trial) เพื่อให้ผู้เรียนได้สัมผัสกระบวนการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรม และเรียนรู้บทบาทของกฎหมายในการคุ้มครองสิทธิพลเมือง

นอกจากนี้มหาวิทยาลัยราชพฤกษ์ดำเนินโครงการที่ส่งเสริมภาวะผู้นำ ความรู้ด้านกฎหมายและจริยธรรม รวมถึงการมีส่วนร่วมของนิสิตในกระบวนการตัดสินใจ สะท้อนบทบาทของสถาบันการศึกษาในการขับเคลื่อน SDG 16 “ด้านสันติภาพ ความยุติธรรม และสถาบันที่เข้มแข็ง”
คณะนิเทศศาสตร์และคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยราชพฤกษ์ จัดเสวนาอบรมหัวข้อ “การใช้ AI ในงานสร้างสื่อเสี่ยงผิดกฎหมายหรือไม่” ให้กับนิสิต อาจารย์ และประชาชนทั่วไป โดยให้ความรู้ทางกฎหมายด้านเทคโนโลยีในเรื่องปัญญาประดิษฐ์ (AI) ผ่านการสตรีมในเพจเฟสบุ๊คของมหาวิทยาลัย เป็นการส่งเสริมหลักนิติธรรมในระดับชาติ และสร้างความเสมอภาคในการเข้าถึงข้อมูลอย่างเท่าเทียม เปิดพื้นที่ให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้และตั้งคำถามเกี่ยวกับจริยธรรมและกฎหมายในยุคดิจิทัล เกิดความโปร่งใส และเป็นการเสริมสร้างสถาบันในประเทศเพื่อป้องกันความรุนแรง

โครงการอบรมภาวะผู้นำคณะกรรมการนิสิต ที่มุ่งพัฒนาทักษะการเป็นผู้นำและการทำงานเป็นทีมอย่างมีจิตสำนึก นิสิตมีความเข้าใจบทบาทของตนในฐานะผู้นำกิจกรรม เกิดเครือข่ายนิสิตที่สามารถประสานงานและแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ อีกทั้งส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจอย่างเท่าเทียมและเท่าทัน

นอกจากนี้ในโครงการดังกล่าวยังมีการประชุมคณะกรรมการนิสิต ซึ่งนำไปสู่การคัดเลือกประธานนิสิตอย่างโปร่งใสและมีส่วนร่วม เกิดกระบวนการประชาธิปไตยภายในสถาบัน สร้างกลไกที่โปร่งใสและไม่เลือกปฏิบัติ

ดังนั้นการดำเนินโครงการของมหาวิทยาลัยราชพฤกษ์สะท้อนถึงการสร้างกลไกธรรมาภิบาลที่โปร่งใสและมีส่วนร่วม ส่งเสริมสถาบันการศึกษาให้เป็นพื้นที่แห่งสันติภาพและความยุติธรรม พร้อมบูรณาการเป้าหมาย SDGs 16 เข้ากับการจัดการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อพัฒนาผู้นำรุ่นใหม่ที่มีจิตสำ